ทีวีดิจิตอล

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

เรตติ้งทีวีดิจิตอล

              ถ้าพูดถึงทีวี รายการทีวี หรือโทรทัศน์ สิ่งที่มีมาควบคู่กันนั้นก็คือ เรตติ้ง หรือค่าหน่วยวัดความนิยมของช่องนั้นนๆ หรือรายการ ละครที่กำลังเป็นที่นิยม หรือคนไทยส่วนมากกำลังดูกันนั่นเอง

              ปัจจุบันช่องทีวีมีหลายช่องมากมาย ในส่วนของทีวีดิจิตอล หรือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลก็มีทั้งหมด 46 ช่องด้วยกัน ดังนั้นเองแต่ละครช่องมีรายการ มีละคร มีรูปแบบการดำเนิน การบริหารผังตารางค่อนข้างแตกต่างกันไป เพื่อให้ตอบโจทย์ หรือให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละช่องให้มากที่สุด ให้ช่องตัวเองเป็นที่นิม หรือเป็นที่ชื่นชอบ ตัวอย่างเช่น ช่อง3 กลุ่มเป้าหมายแน่ๆ เลย คือกรุงเทพและปริมนทน ส่วนช่อง7 คือตามหัวเมืองต่างจังหวัด หรือตามต่างจังหวัด เป็นต้น

            ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารายการของ 2 ช่องนี้ค่อนข้างต่างกัน เพื่อให้ดำเนินรูปแบบให้ตามตรงกลุ่มเป้าหมายของตัวเองดีกว่า แต่ในสิ่งนึงที่ใช้วัดค่านิยมที่คนส่วนมากเชื่อกันนั้นคือ เรตติ้ง เพราะมันสามารถบอกกับเราได้ว่าตอนนั้นรายการ ละคร อะไรเป็นที่นิยมที่คนดูชอบมากที่สุด ในเรื่องของเรตติ้งก็อาจจะมีแบ่งส่วนเป็นทั้งเรตติ้งเแพาะกรุงเทพฯ เรตติ้งรวมทั้งประเทศ บริษัทที่ส่วนมากรู้กันในเรีื่องของเรตติ้ง นั่นคือ นิลสัน 

           ดังนั้นเราจะยกข้อมูลบางอย่างที่ทำให้เห็นว่าในปัจจุบัน คนนิยม หรือชื่นชอบดูช่องไหน มีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหนกัน

          หลังจากเริ่มทดลองปล่อยสัญญาณระบบทีวีดิจิตอลจนถึงปัจจุบัน การแข่งขันของแต่ละช่องเป็นไปอย่างดุเดือด กลยุทธ์ในการผลิตเนื้อหาและเฟ้นหาเนื้อหาของช่องต่างๆ เพื่อดึงดูดคนดูมากระตุ้นยอดเรตติ้งเป็นการแข่งขันที่ต้องติดตามแบบห้ามกระพริบตา บางช่องตั้งหลักได้ยึดแนวทางของตนเองชัดเจน แต่บางช่องก็แกว่งกับกระแสของช่องอื่นๆ จนไม่มีจุดยืน ล่าสุด ในเว็บบอร์ดชื่อดัง อย่าง pantip.com มีสมาชิก ที่ใช้ชื่อว่า keykai สรุปข้อมูลเชิงสถิติ ของภาพรวมทีวีไทย แต่ละช่องตลอดปีที่ผ่านมา จนถึงล่าสุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 58 ที่จะสะท้อนถึงภาพในเบื้องต้นว่าแต่ละช่องเป็นอย่างไร และแนวโน้ม เป็นอย่างไร โดยข้อมูลที่ คุณ keykai เป็นข้อมูล จาก nielsen ซึ่งเอาไว้ใช้ซื้อโฆษณา และดูเรตติ้ง ซึ่งเราจะยกเนื้อหาที่คุณ keykai อธิบายไว้มาให้ศึกษากัน



      ขอเริ่มต้นด้วย ฐานคนดูเฉลี่ยต่อนาที ทั่วประเทศ ของแต่ละช่องในเดือนกุมภาพันธ์ปี 58 ก่อน (ฐานคนดูเฉลี่ย ต่อนาที คือ ในทุกๆ 1นาที เฉลี่ยแล้ว มีคนดู ช่องนั้น กี่คน)




               จะเห็นว่า สูงสุด คือ ช่อง 7, รองมาคือช่อง 3 และตามด้วย workpoint 00000ต่อจาก workpoint ก็เป็นช่อง Boomerang ช่องดาวเทียมยอดนิยม แล้วค่อยกลับมาช่อง 8, ช่อง9,โมโน เนื่องจากคนดูทีวีบ้านเรา แม้จะมีทีวีดิจิตอลแล้ว แต่ก็ยังดูผ่านจานดาวเทียมเป็นหลัก ช่องดาวเทียมบางช่อง อาจมี ฐานคนดูมากกว่าช่องทีวีดิจิตอล และ อนาล็อกได้ ประกอบกับ ฐานคนดูช่อง อนาล็อก เดิม อย่าง ช่อง9, ช่อง 5, ThaiPBS ตกลงค่อนข้างมาก ส่วนช่อง ช่อง 7, ช่อง 3 แม้ฐานคนดูจะตก แต่ก็ยัง ครองอันดับ 1และ 2 อยู่ ช่อง7 ยังคงมีฐานคนดูสูงอยู่ ส่วนช่อง workpoint นั้น สร้างฐานคนดูได้ค่อนข้างมากพอสมควรแล้ว








ต่อไปมาดู เรตติ้ง ทั่วประเทศกัน


              โดยภาพรวมทั่วประเทศในเดือน กพ. ช่อง 7 ขยับตัวขึ้นแล้ว  top5 เป็น ช่อง7,ช่อง 3, workpoint, ช่อง 8,ช่อง 9



ทีนี้มาดู เรตติ้งใน กทม.
       โดยภาพรวมใน กทม. ในเดือน กพ. ช่อง 3, 7 ขยับตัวขึ้นแล้ว top5 เป็นช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง workpoint, ช่อง mono, ช่อง 9


มาดู พัฒนาการ เรตติ้ง ทั่วประเทศของแต่ละช่องกัน


ค่อนข้างชัดเจน ว่า ช่อง 7 และ ช่อง 3 นำ ห่าง โดย ช่อง 7 ตกลงไม่มากนัก แต่ ช่อง 3 ตกพอสมควร 

  ทีนี้เอาช่อง 7 กับช่อง 3 ออกไปก่อน มาดูลำดับที่ 3-10 กันชัดๆ
จะเห็นว่า ที่3 คือช่อง workpoint ทิ้งช่องอื่นค่อนข้างห่าง ส่วนที่4 คือช่อง 8 ซึ่งแข่งกันอยู่กับช่อง 9 และช่อง mono ส่วน ที่ 7 น่าจะแข่งกันอยู่ระหว่าง ช่อง5, ช่องไทยรัฐ, ช่องวัน และ ThaiPBS


ทีนี้ ลองแยก เรตติ้ง เฉพาะ ทีวีดิจิตอล มาดูกัน Top 5(1-5)
ช่อง one ตกลงไป ไทยรัฐ แซงขึ้นมา


อันดับ 6-10
ไทยทีวี ของคุณติ๋ม เป็นช่องข่าวอันดับ1 ไปแล้ว 

  อันดับ 11-15
อันดับ 16-21
               นี้เป็นข้อมูล ส่วนหนึ่งที่คุณ keykai สมาชิกบอร์ดพันทิป อธิบายข้อมูลเชิงสถิติไว้ให้เราชมกัน เห็นได้ชัดว่า ระดับเรตติ้ง ของช่อง 3 และ ช่อง 7 ยังได้ฐานคนดูกลุ่มเดิมในการชม แต่ก็เสียฐานคนดูไปบางส่วนให้กับช่องดิจิตตอลที่เกิดใหม่อยู่หลายช่อง หลังจากนี้ต้องค่อยติดตามว่าช่องไหนจะเป็นตัวคว้า เรตติ้ง ทั้งหมดเอาไว้


 ขอบคุณข้อมูลจากสมาชิกเวปบอร์ดพันทิป keykai http://m.pantip.com/topic/33315142 และเนื้อหาบางอย่างที่ http://dara.truelife.com/detail/3292634#sthash.qEbZS9sO.dpuf

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

จะดูทีวีดิจิตอลได้อย่างไร ต้องซื้อโทรทัศน์ใหม่หรือเปล่า ? 

         คำถามยอดฮิตติดอันดับ 1 ที่หลายคนสงสัยกันมากว่าถ้าจะรับชมทีวีระบบดิจิตอล ต้องซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่หรือเปล่า ก่อนอื่นต้องสำรวจทีวีที่บ้านก่อนค่ะว่าเรารับชมโทรทัศน์ในระบบไหนอยู่

      หากที่บ้านใช้โทรทัศน์ระบบอนาล็อก

          ก็คือโทรทัศน์ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นจอตู้หรือจอแบน ใช้เสาหนวดกุ้งหรือก้างปลา ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโทรทัศน์ใหม่ให้เปลืองเงิน เพราะเพียงแค่ซื้อกล่องแปลงสัญญาณ หรือ Set Top Box ที่เป็นระบบ DVB-T2 มาเชื่อมต่อกับเครื่องโทรทัศน์เดิมผ่านช่อง AV สีแดงขาวเหลือง ก็จะช่วยเปลี่ยนสัญญาณจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิตอลได้แล้ว โดยมีหนวดกุ้งหรือเสาก้างปลาเป็นตัวรับสัญญาณ (ย้ำว่าต้องเป็นกล่องรับสัญญาณ DVB-T2 เท่านั้น ถ้าเป็นกล่องรับสัญญาณ DVB-T ธรรมดาจะรับสัญญาณไม่ได้นะคะ)

          และถ้าทีวีของคุณมีช่องต่อ HDMI ก็จะยิ่งดี เพราะสามารถนำกล่องมาต่อผ่านช่องนี้เพื่อรับชมสัญญาณได้เลย ซึ่งจะให้ความคมชัดสูงกว่าการต่อผ่านช่อง AV แดงขาวเหลืองที่มีในโทรทัศน์รุ่นเก่า ๆ แม้ว่าจะสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้เหมือนกัน แต่ภาพจะคมชัดน้อยกว่า


       ที่สำคัญคือ 1 กล่อง ต่อ 1 เครื่องโทรทัศน์เท่านั้น ถ้าที่บ้านมีทีวีหลายเครื่องแล้วอยากดูระบบดิจิตอลทุกเครื่อง ก็ต้องซื้อหลายกล่องไปด้วยนะ

       หากที่บ้านใช้ทีวีที่รับสัญญาณดิจิตอลได้อยู่แล้ว 

      ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องดูก่อนว่า ที่ว่ารับสัญญาณดิจิตอลได้นั้นเป็นการรับสัญญาณแบบไหน เพราะทีวีดิจิตอลที่จะเกิดขึ้นนี้จะรับสัญญาณระบบ DVB-T2 ซึ่งเป็นระบบใหม่ล่าสุด แต่เครื่องโทรทัศน์ที่วางขายก่อนหน้านี้มักจะรับสัญญาณดิจิตอลได้แค่ระบบ DVB-T ซึ่งเป็นระบบเก่ากว่า จึงไม่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลระบบใหม่ได้ค่ะ

      ถ้าเช่นนั้น บ้านไหนที่ใช้ระบบ DVB-T ก็ต้องซื้อกล่องรับสัญญาณมาแปลงเช่นกัน แต่ถ้าบ้านไหนเพิ่งซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่มาสด ๆ ร้อน ๆ และมีข้อความระบุว่า เป็น Built-In Tuners ระบบ DVB-T2 ก็สามารถรับชมทีวีดิจิตอลแบบชัด ๆ ได้เลย โดยไม่ต้องซื้อกล่อง เพียงแค่หาเสาอากาศ มาต่อกับทีวี แล้วจูนหาช่องดูได้เลย





       ตรวจสอบโทรทัศน์รุ่นไหนเป็น iDTV สามารถชมทีวีดิจิตอลได้เลย 

      หากที่บ้านรับชมโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หรือเคเบิ้ลทีวี 

      ถ้าโทรทัศน์ที่บ้านรับชมผ่านจานดาวเทียม (C-Band) หรือเคเบิล (KU-Band) ไม่ว่าจะเป็นจานดำ จานแดง จานเหลือง จานส้ม ก็สามารถดูทีวีดิจิตอลได้เลยค่ะ ไม่ต้องหาเสาอากาศ หรือกล่องอะไรมาติดเพิ่ม เพียงแค่ถอดปลั๊กแล้วเสียบใหม่ เพราะดาวเทียม หรือเคเบิล คือระบบดิจิตอลอยู่แล้ว และทาง กสทช. ได้กำหนดข้อบังคับตามกฎ Must Carry ให้แต่ละจานส่งสัญญาณดิจิตอลให้สมาชิกได้ชมด้วย หากไม่ทำจะผิดกฎหมาย ซึ่งแต่ละเจ้าจะอัพเดทช่องให้เองอัตโนมัติในภายหลัง

      อย่างไรก็ตาม คนที่ใช้โทรทัศน์ระบบเคเบิลจะสามารถชมรายการได้เพียงแค่ 36 ช่องเท่านั้น (คือ ช่องสาธารณะ 12 ช่อง + ช่องธุรกิจ 24 ช่อง) โดยจะไม่สามารถรับชมช่องบริการชุมชน 12 ช่องได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการออกอากาศในแต่ละพื้นที่ซึ่งระบบจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีไม่สามารถดึงสัญญาณภาพไปให้บริการได้

       แต่เรื่องสำคัญที่ชาวเคเบิลทีวีต้องทราบก็คือ หากกล่องรับสัญญาณที่คุณติดตั้งอยู่ตอนนี้ไม่ใช่กล่อง HD อยู่แล้วก็จะไม่สามารถเปิดดูช่อง HD ได้นะ จะดูได้แต่ช่องธรรมดา ถ้าต้องการดูช่อง HD ด้วยก็ต้องเปลี่ยนเป็นกล่องแบบ HD แทน หรือจะซื้อ Set Top Box DVB-T2 มาใช้แทนก็ได้ ถ้าสัญญาณทีวีดิจิตอลส่งมาถึงค่ะ

       หากที่บ้านเป็นเคเบิลทีวีท้องถิ่น ในต่างจังหวัด 

      การติดเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นแบบจ่ายรายเดือน เพื่อให้ดูฟรีทีวีได้ชัดเจน ก็เป็นที่นิยมกันหลายบ้าน ซึ่งเมื่อระบบดิจิตอลเกิดขึ้นมา เราก็สามารถดูทีวิจิตอลได้ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณผ่านกล่อง Set Top Box เช่นกัน

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

คูปองทีวีดิจิตอล

         ช่วงนี้หลายคนนะจะเคยได้ยินหรืออ่านผ่านๆ ตามาบ้างว่า กสทช. เริ่มแจก “คูปองดิจิตอลทีวี” แล้ว ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าเจ้าคูปองนี้มันคืออะไร ? ใครจะได้รับบ้าง ? และเอาไปใช้ยังไง? จึงได้ไปรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์และแฟนเพจของ กสทช. มาให้ดูกันครับ

          คูปองดิจิตอลทีวี คืออะไร คูปองดิจิตอลทีวี หรือ คูปองทีวีดิจิตอล ที่หลายคนพูดถึง คือคูปองที่แจกโดย กสทช. เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทุกครัวเรือน เปลี่ยนผ่านจากระบบทีวีอนาล็อกไปเป็นระบบดิจิตอล โดยคูปองนี้สามารถนำไปเป็นส่วนลดสำหรับการซื้อ “กล่องแปลงสัญญาณดิจิตอล” (หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า กล่องดิจิตอล) จากร้านค้าต่างๆ ที่มีสติ๊กเกอร์ “น้องดูดี” (ตัวสีเขียวๆ) ซึ่งนอกจากส่วนลดสำหรับการซื้อกล่องดิจิตอลแล้ว คูปองนี้ยังใช้ได้กับการซื้อทีวีเครื่องใหม่ที่รองรับระบบดิจิตอลในตัวอีกด้วย (ไม่ต้องใช้กล่อง) โดยคูปองนี้จะมีมูลค่า 690 บาท และจะได้รับแจกครัวเรือน(ตามทะเบียนบ้าน) ละ 1 ใบเท่านั้นครับ

          ขั้นตอนการใช้คูปองดิจิตอลทีวี 

          เมื่อได้คูปองมาแล้วเราสามารถนำคูปองดังกล่าวไปใช้เป็นส่วนลดมูลค่า 690 บาท สำหรับการซื้อกล่องดิจิตอลหรือทีวีที่รองรับระบบดิจิตอลในตัว ซึ่งรายละเอียดการใช้งานคูปองนั้นดูได้จากภาพด้านล่างครับ




         เอกสารที่ใช้รับแลกคูปองดิจิตอลทีวี





        รับคูปองดิจิตอลทีวีได้ที่ไหน 
          สำหรับการรับคูปองดิจิตอลทีวีนั้นไม่ต้องเดินทางไปรับที่ไหนครับ เพียงแค่รออยู่ที่บ้าน โดยทางก กสทช. ได้ร่วมมือกับบริษัทำไปรษณีย์ไทยทำการจัดส่งคูปองดังกล่าวมาให้ถึงที่


วิธีการติดตั้ง

วิธีติดตั้งและตั้งค่า 

         หลังจากมีการมีเปิดจุดรับแลกคูปองส่วนลดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลมาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมาเชื่อว่าหลายๆ คนคงมีข้อสงสัยกับการตั้งค่าเพื่อรับชมช่องทีวีดิจิตอลกับทีวีของตนเองอยู่ ว่าทีวีที่เรามีอยู่นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ถึงจะสามารถรับชมได้ นั้นเราไปดูวิธีการตั้งค่ารับชมทีวีดิจิตอลกับทีวีระบบต่างๆ กัน


วิธีการตั้งค่ารับชมช่องทีวีดิจิตอล

วิธีที่ 1 ระบบโทรทัศน์เครื่องเดิม
          ทีวีทั่วแบบเดิมที่มีอยู่แล้ว สามารถซื้อกล่องรับสัญญาณดิจิตอล (Set Top Box) เพื่อนำมาแปลงสัญญาณจากเสาอากาศแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็น เสาหนวดกุ้ง หรือเสาก้างปลา เพียงนำมาเสียบเข้ากับกล้อง และต่อสายก็จะสามารถรับชมทีวีในระบบดิจิตอลได้ 

วิธีที่ 2 ระบบโทรทัศน์ที่มีดิจิตอลจูนเนอร์
          โทรทัศน์รุ่นใหม่จะมีสติกเกอร์ที่แสดงให้ทราบว่าสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ จากกสทช. เพียงนำสายสัญญาณจากเสาหนวดกุ้งหรือ เสาก้างปลา มาเชื่อมต่อเข้ากับทีวีก็จะสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อกล่องรับสัญญาณ Set Top Box เพียงแต่หากเชื่อมต่อผ่านกล่อง Set Top Box จะทำให้สามารถรับชมช่องรายการต่างๆ ที่ผู้ให้บริการกล่อง Set Top Box รับชมเพิ่มเติมเท่านั้น


วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ช่องทีวีดิจิตอลมีอะไรบ้าง?

         จากเมื่อก่อนเราดุทีวีกันแบบระบบอนาล็อคมันจะมีแค่ไม่กี่ช่อง มันก็ซ้ำๆ เดิมๆ แต่พอมาถึงยุคทีวีดิจิตอล มันมีหลากหลายช่องมากขึ้น เยอะมาก นำให้เรามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางช่องได้มีการนำซี่รีย์ต่างประเทศ นำรายการที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศซื้อมาแล้วนำมาลงในผังของช่องทีวีของตัวเอง เพื่อเป็นการเรียกเรทติ้ง หรือเรียกคนดูให่้หันมาดูทีวีช่องตัวเองนั่นเอง สำหรับช่องทีวีดิจิตอลมีทั้งหมด 48ช่อง คือ









ทั้งนี้จำนวน 48 ช่องนี้ ยังแบ่งออกได้อีกตามรูปแบบของช่อง คือ

ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดสาธารณะ 12 ช่อง  ออกอากาศทางช่อง 1-12 แต่ในระยะแรกมี 4 ช่อง คือ
 - ช่อง 1 - CH5 (HD)
 - ช่อง 2 - NBT (HD)
- ช่อง 3 - Thai PBS (HD)
- ช่อง 4 - Thai PBS ช่องเด็กและครอบครัว (HD) เริ่มออกอากาศปี 2558

ช่องธุรกิจ 24 ช่อง ประกอบด้วย
  ช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว 3 ช่อง คือ
 - ช่อง 13 - 3 Family
 - ช่อง 14 - MCOT Kids and Family
- ช่อง 15 - LOCA

ช่องข่าวสารและสาระ 7 ช่อง คือ
 - ช่อง 16 - TNN24
- ช่อง 17 - THV
- ช่อง 18 - NEW TV
- ช่อง 19 - Spring News
- ช่อง 20 - Bright TV
- ช่อง 21 - Voice TV
- ช่อง 22 - Nation TV

ช่องวาไรตี้ ความคมชัดระดับปกติ (SD) 7 ช่อง คือ
- ช่อง 23 - Workpoint Creative TV
- ช่อง 24 - True4U
- ช่อง 25 - G25
- ช่อง 26 - NOW
- ช่อง 27 - CH8
- ช่อง 28 - 3 SD
- ช่อง 29 - MONO 29

ช่องวาไรตี้ ความคมชัดสูง (HD) 7 ช่อง คือ
- ช่อง 30 - MCOT HD
- ช่อง 31 - ONE
- ช่อง 32 - Thairath TV
- ช่อง 33 - 3 HD
- ช่อง 34 - Amarin TV HD
- ช่อง 35 - BBTV CH7
- ช่อง 36 - PPTV

ช่องบริการชุมชน 12 ช่อง คือช่องทีวีเคเบิลท้องถิ่น หรือช่องรายการทีวีดาวเทียมท้องถิ่น ซึ่งแต่ละจังหวัดจะรับชมได้ในรายการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้น ๆ

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

ทีวีดิจิตอล



ทำไมถึงต้องทีวีดิจิตอล





          กล่าวง่ายๆ เลย ทีวีดิจิตอลมันก็คือ ทีวีที่ดูแล้วได้ความคมชัด ได้ภาพคมชัดที่สวยกว่าทีวีอนาล็อค หรือทีวีที่เราคุ้นเคยกันสมัยก่อนๆ อย่างพวกช่อง 3,5,7,9 และถ้ายิ่งเป็นช่อง HD หรือช่องที่มีความคมชัดขนาดสูงด้วยแล้วก็ เราจะได้ดุทีวีที่ชัดแจ๋วมากๆ ต่างต่างทีวีดิจิตอลช่องธรรมดา และในการเข้าถึงทีวีดิจิตอลก็ไม่ยุ่งยาก หรือสับซ้อนไปมากนัก
         และจุดเด่นอีกอย่างนึงของทีวีดิจิตอล คือการที่เราสามารถมีช่องทีวีให้เราดูเพิ่มขึ้นอีกหลายช่อง ต่างจากทีวีระบบอนาล็อคที่เราดูได้แค่ไม่กี่ช่อง แต่สำหรับทีวีดิจิตอลแล้ว มีช่องหลากหลายให้เราได้เลือก ได้รับชม มีรายการ มีละครให้เราเลือกมากขึ้น